ในการผลิต อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ จะต้องเริ่มต้นมาจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ (Raw Materials) จากนั้นก็ต้อง ใช้ไฟฟ้า ใช้น้ำ ในการผลิต (Production) เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์มาใช้งาน (Use) เมื่อไม่ใช้งานหรือหมดอายุ (End of life) ก็ทิ้ง สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งต้องผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมา ซึ่งก็ต้องใช้ทั้งพลังงาน และวัตถุดิบจากธรรมชาติกันอีกครั้ง เราในฐานะผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์จึงไม่สามารถจะปฏิเสธได้ว่าพลังงาน สิ่งแวดล้อม และวัสดุ ไม่เกี่ยวกับเรา
Source : http://sustainableproductivity.blogspot.com/2012/04/product-related-factors-which-impact-on.html
เราเป็นแค่คนใช้งานผลิตภัณฑ์ ทำไมต้องสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย ?
เพราะสิ่งเหล่านี้คือความยั่งยืนของสังคมประเทศและสังคมโลก หากวันข้างหน้าเราไม่มีไฟฟ้า ไม่มี น้ำ ไม่มีอากาศหายใจ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เราจะอยู่อย่างไร? ฉะนั้นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของ พวกเราทุกคน
แล้วเราจะมีส่วนช่วยในสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ?
คงต้องหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งในด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และวัสดุ เพราะในสิ่งต่างๆเหล่านี้มีเทคโนโลยีเข้ามาจัดการไม่เหมือนกัน
ยังไง?
ถ้าเป็นด้านพลังงาน ก็จะต้องมีความรู้ด้านพลังงานด้านต่างๆ เพื่อให้เข้าใจ และวางแผนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการหมุนเวียนของพลังงาน จะได้ไม่ต้องไปใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
ถ้าเป็นด้านวัสดุ จะต้องมีความรู้ตั้งแต่การออกแบบวัสดุ พัฒนาวัสดุให้ใช้งานได้นาน และมีความเหมาะสม จะได้ไม่ต้องเสียทรัพยากรในการผลิตวัสดุใหม่ มีกระบวนการในการผลิตที่ใช้พลังงานน้อย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการมลภาวะ ของเสียที่เกิดจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ
แบบนี้ก็มีประโยชน์กับทุกคน โดยเฉพาะคนที่กำลังจะออกไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมน่ะสิ
แน่นอน หากคนในภาคอุตสาหกรรมมีความรู้ในเรื่องพวกนี้แล้ว นอกจากจะช่วยสังคมแล้ว ก็ยังช่วยประหยัดงบประมาณของบริษัทได้
ไม่เฉพาะคนที่จะออกไปทำงานในอุตสาหกรรมเท่านั้นนะ แม้แต่คนที่จะเป็นนักวิจัย ก็จะต้องพัฒนาในเทคโนโลยีเหล่านี้ หรือ คนที่จะออกไปเป็นผู้ประกอบการก็ต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ เพื่อจะได้ประหยัดต้นทุน และได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต
